วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

รำลึกถึงผู้กล้าครบ 1 ปี ขอสดุดีวีรชน



ส.ต.ต.ราชพฤกษ์ อาแว ถูกโจรใต้ซุ่มโจมตีจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.59
อีก 1 ชีวิตที่เสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เพื่อปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิด
ขอบคุณจากใจแทนคนไทยทุกคน


ส.ต.ต.ราชพฤกษ์ อาแว เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2538 เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 6 คน ของนายมะดาโอะ อาแว และนางแมะยะ อาแว เข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ขณะอายุ 20 ปี ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ จังหวัดนราธิวาส


ส.ต.ต.ราชพฤกษ์ อาแว เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ จากเหตุคนร้ายซุ่มยิงบนถนนในหมู่บ้านเมาะสาวา หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 มี.ค.59 พิธีฝังศพ ส.ต.ต.ราชพฤกษ์ อาแว ตร.จะแนะ ที่ถูกซุ่มโจมตีจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มี.ค.59 ที่กุโบร์บ้านโคกติมุง ม.1 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ต.อ.จักรพร แท่นทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีฝังศพ โดยมี พ.อ.จิรสิทธิ์ จันทรมี รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดนราธิวาส นายสุรัตน์ ลายจันทร์ ปลัดอาวุโสอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.ประยุทธ พงค์สันติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมูโนะ ผู้นำศาสนา เพื่อนข้าราชการตำรวจ และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีเพื่อแสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย







ด.ต.รุสลาม อาแว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรมูโนะ ผู้เป็นพี่ชายกล่าวว่า น้องชายเป็นคนเรียบร้อย มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ และมีความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากเป็นตำรวจ จึงพยายามตั้งใจเรียนและขวนขวายหาความรู้เพื่อสานฝันของตัวเอง จนประสบความสำเร็จเมื่อสอบเข้าตำรวจและถูกเรียกบรรจุเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 และในระหว่างนี้ได้เตรียมตัวที่จะสมัครเข้าสอบเป็นนายร้อยด้วย



วันแรกของการได้สวมเครื่องแบบชุดตำรวจของน้องชาย เป็นวันที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวมาก เพราะน้องชายเป็นบุตรชายคนสุดท้อง ที่เป็นศูนย์รวมของความรักของครอบครัว พ่อแม่ยิ้มอย่างมีความสุขไปพร้อมกับพี่ๆทุกคน ซึ่งตลอดช่วงเวลาของการปฏิบัติหน้าที่แม้จะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่น้องก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ด้วยใจรักและอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นว่าจะช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน


น้องชายพูดเสมอว่า ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตนเองขึ้นมาวันใด แต่ขอให้ครอบครัวสบายใจว่าจะดูแลตัวเองและระมัดระวังให้มากที่สุด ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้นกับตน ก็ขอให้ครอบครัวเข้าใจและยอมรับกับเหตุที่เกิดขึ้นว่า เป็นการเสียสละชีวิตในหน้าที่ตำรวจ ที่เป็นความภาคภูมิใจของตนเอง

การพบกันครั้งสุดท้ายคือเมื่อวันที่ 26 มี.ค.59 น้องชายกลับมาที่บ้านพร้อมถุงยาสมุนไพรจากเห็ดป่าของชนเผ่าซาไกในพื้นที่ เพื่อให้พ่อแม่ได้ต้มดื่มรักษาโรคหอบหืดของพ่อและโรคเบาหวานของแม่ ซึ่งจากนี้ไปพี่ๆทุกคนจะดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพราะท่านยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น



จะต้องสูญเสียอีกกี่ชีวิตถึงจะพอใจ “เอกราชจอมปลอม” ไม่มีวันเป็นจริงได้หรอก
หยุดสร้างบาปให้ตนเองสักที 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น