วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ขน 18 มือบึ้ม กทม. ส่งเข้ากรุงพรุ่งนี้ ป.รอ ผบ.ตร.สั่งรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน


กองปราบรอคำสั่ง ผบ.ตร.พร้อมรับโอนคดี 18 ผู้ต้องหามือระเบิดจากภาคใต้ เข้าสู่กทม.หลังสิ้นสุด การควบคุมตัวตามกฎหมายพิเศษ วันพรุ่งนี้ เพื่อรวบรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน


วันนี้ ( 14 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดใน กทม.และ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังไม่ได้ลงนามในคำสั่งให้โอนคดีมาที่กองปราบปราม เนื่องจากต้องรอขั้นตอนการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เจ้าของสำนวนดำเนินการในเรียบร้อยก่อน อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามได้มีการประชุมหารือแนวทางการรับโอนคดีในแต่ละขั้นตอนไปแล้ว นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าการควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบกำหนด 48 ชั่วโมงตามกฎหมายในวันพรุ่งนี้ จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน จะต้องนำตัวผู้ต้องหาไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนที่จะโอนสำนวนคดีมาที่กองปราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับเหตุที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ต้องมีคำสั่งให้โอนคดีทั้งหมดมาที่กองปราบเนื่องจากมีเหตุระเบิดและพบระเบิดเกิดขึ้นในหลายท้องที่ และเพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำสำนวนของพนักงานสอบสวน รวมถึงกระบวนการอื่นๆ เพราะหากดำเนินการฟ้องร้องตามขั้นตอนปกติจะต้องทำหลายสำนวนทั้งที่คดีเป็นเรื่องเดียวกันและมีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะการบรรยายฟ้องในคดีก่อการร้ายที่ บช.น.จะต้องส่งผู้แทนมาแจ้งความกล่าวโทษที่กองปราบนั้นจะต้องบรรยายให้เห็นภาพต่อเนื่องว่าคดีระเบิดมีความเชื่อมโยงทั้งในและนอกประเทศ จึงต้องให้กองปราบที่มีอำนาจสอบสวนทั่วราชอาณาจักรเป็นผู้ทำสำนวนการสอบสวนและส่งฟ้องที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพียงศาลเดียวเท่านั้น

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิดป่วนกรุงอีกจำนวนหนึ่ง ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา โดยถูกควบคุมตัวตามกฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เบื้องต้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้จำนวน 18 คน หากการสอบสวนพบว่ามีความผิดก็จะทยอยส่งตัวขึ้นมาที่กรุงเทพฯ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีในสำนวนการสอบสวนเดียวกันนี้ด้วย

ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาระเบิดเมืองกรุงอีก 4 ราย

เจ้าหน้าที่อีโอดี หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบกล่องต้องสงสัยที่ถูกทิ้งไว้ ในพื้นที่แห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ วันที่ 2 สิงหาคม 2562


ในวันนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เหตุเกิดเมื่อตอนต้นเดือนสิงหาคมนี้ว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกสี่ราย ในขณะที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีผู้ต้องหาอีกบางส่วนที่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ในขณะนี้ หลังจากเกิดเหตุ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งสิ้นรวม 6 ราย ซึ่งเป็นความผิดที่มีอายุความ 20 ปี และมีอัตราโทษสูง
ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ว่า วันนี้ ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 4 ราย ในข้อหา เป็นอั้งยี่ ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ทำ/ใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
ขณะนี้ ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 6 ราย จากผู้ร่วมก่อเหตุหลายรายในแต่ละพื้นที่เกิดเหตุ ได้แก่ นายลูไอ แซแง และ นายวิลดัน มาหะ ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 2 ส.ค. และออกหมายจับเพิ่มเติม นายอัสมี อาบูวะ นายอุสมาน เปาะลอ นายอัมรี มะมิง นายฮาแซ แบเล๊าะ ซึ่งจะมีการสืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ที่ร่วมก่อเหตุ และผู้ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวเพิ่มเติม
พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า การดำเนินการเป็นไปตามคำสั่งและนโยบายของ พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนเรื่องนี้ ยึดระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชน โดยต้องไม่มีการจับแพะอย่างเด็ดขาด
พ.ต.อ.กฤษณะ ไม่ได้ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งสี่รายยังหลบหนีอยู่ หรือว่าโดนควบคุมตัวแล้วโดยไม่ได้เปิดเผยสถานที่
และในก่อนหน้านี้ พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ตัวเลขการควบคุมผู้ต้องสงสัย 7 ราย ที่พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมนั้น ยังเป็นตัวเลขที่รายงานขึ้นไป โดยยังไม่มีการปรับปรุงให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นเพียงผู้ที่ถูกนำตัวมาสอบถาม และถูกปล่อยตัวไปแล้ว
ด้าน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า ยังมีผู้ต้องสงสัย เดินทางหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่วางแผนสั่งการลงมือโจมตีครั้งนี้
ยังมีอยู่.. ยังหนีไปประเทศเพื่อนบ้านก็มีนะ” พลเอกประวิตร กล่าวตอบคำถามว่าจะมีหมายจับอีกหรือไม่
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการติดต่อประเทศมาเลเซีย เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยหรือไม่ พลเอกประวิตร ตอบว่า “ตอนนี้ ยังไม่รู้ ต้องรอดูทางตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ ให้เวลาตำรวจดำเนินการอยู่...”
ในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้ ได้เกิดระเบิดในกรุงเทพฯ และนนทบุรี 4 จุด และมีระเบิดหรืออุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ที่ทำงานแล้วหรือยังไม่ทำงาน รวมจำนวน 9 ลูก ในระหว่างมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในกรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คนร้ายหวังให้เกิดผลกระทบต่อการประชุมฯ
ในชั้นต้น เจ้าหน้าที่ได้จับตัวนายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ชาวอำเภอรือเสาะ นราธิวาส ที่ตรวจพบว่าเป็นคนวางวัตถุสองชิ้นที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม โดนควบคุมตัวด้วยอำนาจ พรก.ฉุกเฉิน ได้ที่จังหวัดชุมพร ในขณะที่ทั้งสองเดินทางกลับลงนราธิวาส ต่อมา พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับนายลูไอ และนายวิลดัน และในชั้นต้น ได้ดำเนินการแจ้งข้อหาพยายามฆ่า
ทั้งสองราย ถูกนำตัวจากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า จังหวัดยะลา มายังกรุงเทพ แล้วเมื่อวานนี้