วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2563

องค์กร NGO ยังมีประโยชน์ต่อไทยอีกหรือ?

 



NGOs” ..มิชชันนารีของ “จักรวรรดินิยมใหม่” – Devon Douglas-Browns
จักรวรรดินิยมในสมัยก่อนนั้นใช้ มิชชันนารี นำหน้าเพื่อหาลู่ทางที่จะยึดประเทศของคนอื่น ..แต่สมัยปัจจุบันมิชชันนารีนั้นตกยุคไปแล้ว ฝรั่งหัวใสจึงเปลี่ยนแผนใหม่โดยใช้
NGOs ทำงานแทน..ในปัจจุบันงานของ NGOs หรือ มิชชันนารียุคใหม่ก็คือเป็น “หน้าฉากให้ CIA” โดยได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทำงานเพื่อ “ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงข้าม หรือรัฐบาลที่มีนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ”

 

องค์กรพัฒนาเอกชน หรือ NGOs มีความสำคัญมากขึ้นบนภูมิทัศน์ระหว่างประเทศในศตวรรษที่ 21 งานของพวกเขามีหลากหลายเช่นด้านมนุษยธรรมเกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อระหว่างปัญหาของความยากจนสิ่งแวดล้อมและเสรีภาพของพลเมืองฯ อย่างไรก็ตามยังมีด้านมืดที่องค์กรพัฒนาเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นพวกเขากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือของนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกาที่แทนการใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว

ในขณะนี้สหรัฐฯได้ย้ายการดำเนินการจากการทหารไปใช้ NGOs เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของตน โดยเฉพาะในองค์กรส่งเสริมประชาธิปไตยแห่งชาติ “the National Endowment for Democracy” (NED) ฟรีดอมเฮาส์ “Freedom House” และองค์กรนิรโทษกรรมสากล “Amnesty International”

 เรามาดูกันครับว่าองค์กรเหล่านี้ทำงานกันอย่างไร

องค์กรส่งเสริมประชาธิปไตยแห่งชาติ “National Endowment for Democracy” (NED) 
จากเว็บไซต์ขององค์กรเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (NED) คือ “องค์กรภาคเอกชน หรือมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร ที่อุทิศตนเพื่อการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถ​​าบันในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก” ฟังเฉพาะชื่อก็น่าเลื่อมใส หรือน่าศรัทธา ใช่ไหมครับ? แต่นี้เป็นเพียงคำอธิบายที่ให้หวานหูเท่านั้นครับ เพราะการทำงานของพวกเขามันค่อนข้างห่างไกลจากความเป็นจริงลิบลับ

 ประวัติของ NED เริ่มต้นทันทีหลังจากที่รัฐบาลของประธานาธิบดี โรนัลด์ รีแกน เข้ามาบริหารประเทศ แล้วมีการเปิดเผยเกี่ยวกับหัวหน้าซีไอเอที่เข้าไปมีส่วนร่วมหรือพัวพันในการลอบสังหารและพยายามฆ่าประมุขของรัฐรัฐบาลต่างประเทศในปี 1970s นอกจากนั้นยังได้ทำลายเสถียรภาพของต่างประเทศโดยเฉพาะการอุ้มฆ่าหรือลักพาตัวหัวหน้ารัฐบาลตลอดจนลอบสอดแนมพลเมืองของสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฏหมาย

 การกระทำเหล่านี้ได้ทำให้ภาพพจน์ของซีไอเอและของอเมริกาโดยรวมมัวหมอง

แฟรงก์เชิร์ช “Frank Church”

ดังนั้นจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการเป็นจำนวนมากเข้ามาตรวจสอบ CIA เช่นคณะกรรมการคริสตจักร นำโดยแฟรงก์เชิร์ช “Frank Church” สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากรัฐไอไอดาโฮ และนี่เป็นสิ่งที่สำคัญเนื่องจากผลของมันได้”แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการเฝ้าระวังตลอดกาลของชุมชนผู้มีปัญญาและมีผลทำให้เกิดการสร้างคณะกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกอย่างถาวรสำหรับงานข่าวกรองเพื่อดูแลกิจกรรมของรัฐบาลกลาง และในขณะเดียวกันก็มีการกำกับดูแลความมั่นคงเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเท่ากับว่ามีการส่งสัญญาณว่า ‘บุคคล’ ที่ซีไอเอวางแผนการลอบสังหารและทำรัฐประหารนั้นสิ้นสุดลง”

 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่: ภายใต้หน้ากากขององค์กรพัฒนาเอกชน NGOs ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยทั่วโลก แต่ NED กลับรับงานที่เป็นอันตราย นั่นคือเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯในระยะเริ่มแรก

 

อาเลน ไวสไตน์ (Allen Weinstein)

ความคิดนี้มาจากหัวคิดของ อาเลน ไวสไตน์ (Allen Weinstein) ผู้ซึ่งก่อนที่จะมาทำงานนี้เป็นโปรเฟสเซอร์และนักวิชาการของมหาวิทยาลัยบราวน์ และจอร์จทาวน์ นอกจากนั้นยังเป็นสตาฟในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์วอชิงตั้นโพสต์ และมีตำแหน่งเป็นบรรณาธิการบริหารของวอชิงตันไตรมาสศึกษายุทธศาสตร์และนานาชาติที่ศูนย์จอร์จทาวน์

 อาเลน ไวน์สไตน์ เป็นหนึ่งในพวกคอนเซอร์เวทีฟใหม่ ตัวพ่อ (neoconservative) คืออยู่ ปีกขวาตกขอบของ neo-con, think tank ซึ่งอนาคตมีความสัมพันธ์อยู่กับยุทธศาสตร์ของ”จักรวรรดินิยมอเมริกัน”ตัวพ่อเช่นเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger)อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และ ซบิ๊กนิว บรซีซืสกี้ (Zbigniew Brzezinski) (จากชื่อก็ทราบใช่ไหมครับว่าเป็นชาวยิว)

 ในปี 1991 อาเลน ไวน์สไตน์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “หลายสิ่งที่เราทำวันนี้คือสิ่งที่ซีไอเอได้ทำไว้อย่างซ่อนเร้นเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา”

 

คาร์ล เกิร์ชแมน (Carl Gershman)

ผู้อำนวยการคนแรกของ NED คือ คาร์ล เกิร์ชแมน (Carl Gershman) ที่ยอมรับในทันทีที่เข้ารับตำแหน่งในปี 1986 ว่าเขาคือ “หน้าฉากของซีไอเอ” และบอกว่า “เราไม่ควรจะต้องทำชนิดงานนี้อย่างซ่อนเร้น มันจะน่ากลัวสำหรับกลุ่มประชาธิปไตยทั่วโลกที่จะถูกมองว่าได้รับเงินอุดหนุนโดยซีไอเอ เราเห็นว่าในยุค 60s และกับคำถามว่าทำไมมันได้ถูกยกเลิกไป ก็เพราะเราไม่สามารถทำเช่นนี้ได้นั่นเอง และนี่คือสิ่งที่ว่าทำไม NED จึงถูกสร้างขึ้น”

 และเราสามารถสังเกตต่อไปได้ว่า NED เป็นเครื่องมือของรัฐบาลสหรัฐฯ นับตั้งแต่ก่อตั้งแต่ปี 1983 นั้น “ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี โดยได้รับอนุมัติจากรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณของหน่วยงานสารสนเทศ”

 รวดเร็วทันใจหลังจาก NED จัดตั้งขึ้นกลุ่มทุนที่จะสนับสนุนผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่ปี 1983-1984 ถูกใช้งานอย่างคึกคักในฝรั่งเศส เพื่อ “สนับสนุน ‘สหภาพการค้า ที่มีหน้าตาคล้ายกับองค์กรอาจารย์และนักศึกษา เพื่อคานอำนาจองค์กรของอาจารย์ฝ่ายซ้าย” [7] ด้วยการให้เงินกลุ่มต่อต้านในด้านการจัดสัมนา จ่ายค่าเอกสาร หนังสือ และใบปลิวที่ชักชวนให้ฝ่ายตรงข้ามกับความคิดของปีกซ้าย

 ในกลางปี 1990s NED ได้ต่อสู้กับองค์กรของกรรมกรหรือแรงงานฝ่ายซ้ายอย่างต่อเนื่อง โดยให้เงินสนับสนุนกับ สถาบันอเมริกันพัฒนาฝีมือแรงงานอิสระ( American Institute of Free Labor Development) ซึ่งเป็น “ฉากหน้า” ของ ซีไอเอ เป็นเงิน 2.5 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐเพื่อให้ทำลายสหภาพแรงงานก้าวหน้า

 สรุปก็คือ ..แนวหน้าของจักรวรรดิสมัยก่อนนั้นใช้ มิชชันนารี แต่สมัยนี้ใช้ NGOs ..และในปัจจุบันงานของพวกเขาก็คือเป็น “หน้าฉากให้ CIA” โดยได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทำงานเพื่อ “ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงข้าม หรือรัฐบาลที่มีนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ”

 และที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ ผลประโยชน์ใครกันแน่ที่ NGOs และนักวิชาการไทยที่ผลิตผลงานต่อต้านสถาบันกษัตริย์ และรัฐบาลที่สนับสนุนโดยทหารในเว๊บประชาไท และเว๊บอื่นๆ ..กำลังทำงานให้ ..ต่างชาติ หรือไทย?

 แปลและเรียบเรียงจาก
NGOs: Missionaries of Empire”
by Devon Douglas-Browns

 https://www.foreignpolicyjournal.com/2012/03/10/ngos-missionaries-of-empire/